ในช่วงเดือนกันยายน 2568 ราคาทองคำ Spot ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยหลักที่หนุนราคาคือความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ
ตัวเลขการจ้างงานที่ชะลอตัว
อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น
ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป
การลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลโดยตรงต่อราคาทองคำ เพราะทำให้:
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะถูกลงสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่น ทำให้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น
ต้นทุนการถือครองทองคำลดลง
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน การที่อัตราดอกเบี้ยลดลงจะทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำลดลง ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น
กราฟเทคนิคระดับสัปดาห์ ได้ส่งสัญญาณเตือนมาตั้งแต่ต้นปี 2568 โดยบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งของราคาทองคำดังนี้:
US Dollar Index (_USDX) เป็นขาลง
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน
โดย US Dollar Index (_USDX) ได้หลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 25 สัปดาห์ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าลงจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อราคาทองคำ
ราคาทองคำสร้างฐานและพุ่งขึ้น
หลังจากที่ราคาทองคำวิ่งออกข้าง (Sideways) เพื่อสะสมพลังในช่วงปลายปีที่แล้ว
ราคาได้เริ่มปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปี 2568
ก่อนจะพักตัวเพื่อสะสมพลังอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคม
และในที่สุดก็ดีดตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ในช่วงเดือนกันยายนนี้
แม้ว่าแนวโน้มระยะกลางและระยะยาวของทองคำจะเป็น ขาขึ้น
แต่ในภาพระยะสั้นราคาทองคำยังคงมีช่วง พักตัว หรือ ปรับฐาน เป็นระยะๆ
ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่ซื้อขายเป็นรอบๆ นอกจากจะพิจารณาปัจจัยพื้นฐานแล้ว ควรดูกราฟเทคนิคประกอบการตัดสินใจด้วย เพื่อจับจังหวะในการเข้า–ออกที่เหมาะสม
ทดลองใช้ Aspen เพื่อติดตาม ราคาทองคำ, US Dollar Index และแรงซื้อ–ขายของนักลงทุนทั่วโลกแบบเรียลไทม์
พร้อมเครื่องมือ วิเคราะห์กราฟเทคนิคครบชุด ที่ช่วยให้คุณเห็นแนวรับ–แนวต้านชัดเจน และวางกลยุทธ์ซื้อ–ขายทองคำได้แม่นยำยิ่งขึ้น
แชร์ไปที่:
